ณ เส้นทรายที่ปลายฟ้า

 

หัตถ์ใหญ่อุ่นจัดยื่นมากอบกุมข้อมือบาง ชักชวนนางให้เข้าไปร่วมชื่นชมทารกตัวน้อยด้วยกัน และคงเพราะเจ้าของมือนุ่มมัวแต่ปลาบปลื้มจนลืมตัว จึงยอมให้ทรงยึดครองไว้แต่โดยดีไม่มีต่อต้านดังเช่นในยามปกติ เรียวโอษฐ์หยักสวยแย้มออกบาง ๆ ยื่นพระพักตร์คมเข้มเข้ามาเหนือห่อผ้า ทอดพระเนตรดวงหน้ายับย่นของทารกตัวน้อยนอนหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุขในอ้อมอกของผู้เป็นบิดา

“ดูเจ้าหนูนี่แล้วมีส่วนคล้ายท่านอยู่มิใช่น้อย... ในภายภาคหน้าลูกชายของท่านคนนี้จักต้องเติบโตเป็นบุรุษผู้เก่งกาจนำความภาคภูมิใจมาสู่บิดาของเขาอย่างแน่นอน” อีกหนึ่งประกาศิตจากองค์เทพแห่งสงครามผู้เคยแต่ทรงพรากชีวิต หากบัดนี้ทรงได้ร่วมเป็นสักขีพยาน ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่แห่งการถือกำเนิด...

การฆ่านั้นทำได้ง่ายดายเพียงพลิกฝ่ามือ... แต่การจะทำให้ชีวิตหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมากลับไม่ใช่เรื่องง่ายดังที่คิด...

ใบหน้าของหัวหน้ากลุ่มเบดูอินเร่ร่อนเปี่ยมไปด้วยความปลื้มปิติ เขาค้อมศีรษะต่ำให้ผู้อ่อนวัยกว่าทั้งสองอย่างเต็มอกเต็มใจ

“ข้าเองก็เชื่อเช่นกันว่าการที่พวกท่านเดินทางผ่านมาถึงดินแดนทุรกันดานแห่งนี้ ต้องเป็นด้วยลิขิตองค์เทพเจ้าแห่งท้องทะเลทราย... เป็นพระประสงค์ของพระองค์ที่จักทำให้เชื้อสายตระกูลอันยาวนานของข้าไม่จบสิ้นลง... เช่นนี้แล้วขอให้ท่านได้โปรดตั้งชื่อให้ลูกชายที่จักเติบโตเป็นบุรุษผู้เก่งกาจของข้าคนนี้ด้วยเถิด...”

หัตถ์ที่เคยจับแต่ศาสตราวุธประหัตประหารชีวิตผู้คนมานับหมื่นนับพันยื่นมารับทารกน้อยในห่อผ้าอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยมิเคยคุ้น ร้อนถึงหัตถ์บางต้องเข้ามาช่วยประคับประคอง ดวงเนตรดุจเหล็กกล้าทอประกายอ่อนโยนยามสบเข้ากับดวงเนตรดุจัดราวนางสิงห์อีกคู่ที่บอกชัดว่าหากทรงทำเด็กน้อยหลุดมือเป็นเรื่องแน่!

คำชี้แจง

อันที่จริงควรจะบอกกล่าวมานานแล้ว แต่ผู้เขียนดันลืมเสียสนิท ขออภัยด้วยนะคะ  นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน มิได้อ้างอิงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์แต่ประการใด นอกเสียจากการอ้างอิงเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ นครโบราณต่าง ๆ ในยุคสมัยนั้น รวมถึงชื่อของตัวละครทั้งหลายเพื่อความสมจริงเท่านั้น หากผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับและขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

อนึ่งขอขอบคุณจากใจผู้อ่านทุกท่านที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมา ผู้เขียนซาบซึ้งใจในมิตรภาพบนเส้นทางสายน้ำหมึกนี้เป็นอย่างมาก ขอบคุณจากใจทั้งดวงนี้เลยค่ะ

ด้วยรัก...

Nephthys

 

-b g-